“…เราทำอะไรกันอยู่ ?”
เสียงหวานๆดังขึ้นมาจากข้างๆตัวผม ท่ามกลางเสียงดนตรีแจ๊สที่ดังเป็นพื้นหลัง
“นั่งฟังเพลงไง เธอเป็นคนชวนเรามานิ” ผมกล่าวกลับไปอย่างไม่คิดอะไร พร้อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบไปพลางๆ
ราวกับคำตอบของผมมันไม่ใช่อะไรที่เธอคาดหวัง เธอก้มหน้าลง พร้อมกล่าวด้วยเสียงหม่น
“เธอเคยคิดหรือเปล่าว่า ชีวิตเรามันมีความหมายไหม?.. ฟังเพลงไปทำไม ดื่มไปทำไม ใช้ชีวิตอยู่เพื่ออะไรกัน”
คำพูดของเธอกระตุ้นให้ผมนึกถึงช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองในรูปแบบนี้เหมือนกัน
หลายๆครั้ง ความเหนื่อย ความท้อแท้ การใช้ชีวิตมันก็ดูจะยากลำบากจนเราถามตัวเองว่า เราเกิดมาทำไมบางทีคนเราแค่นั่งดูหนังอยู่เฉยๆก็ตกอยู่ในห้วงวิกฤตการดำรงอยู่จนจิตตกไปหลายวันได้
“ไม่รู้สิ บางทีมันอาจไม่มีความหมายอะไรเลยก็ได้นะ” ผมยิ้มเล็กๆพร้อมเสริมว่า
“เราอาจเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆในระบบทุนนิยม ที่ชีวิตมีหน้าที่แค่สร้างผลผลิตให้นายทุน”
เสียงขุ่นเคือง ดังกลับมาเป็นผลลัพท์ตามคาดหวัง “นี่— ทำเป็นเล่นไป เราจริงจังนะ”
ผมเอามือก่ายคางสักครู่ แล้วตอบไป
“บางทีชีวิตเธอมันอาจขึ้นอยู่กับว่า เธอให้คุณค่ากับอะไร— หลายๆครั้งความหมายของชีวิตเรามันผูกติดกับสิ่งที่เรายึดถือ– ขึ้นอยู่กับโครงสร้างข้างบนที่กดทับเรา สังคม ศาสนา อยากให้เราทำอะไร
แต่อย่างบางคน เขาอาจเชื่อว่าชีวิตที่มีความหมายจำเป็นต้องยึดหลักการอะไรสักอย่าง แบบเฟมินิสม์อาจรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีความหมายเวลาได้เรียกร้องสิทธิ์”
“หมายความว่า เราต้องมีหลักการชื่อดูวิชาการ เกร๋ๆ อะไรสักอย่างไว้ยึดถือหรอ?” เธอย้อนถาม .. เว้นระยะครู่หนึ่ง “นายล่ะ มีอะไรที่เชื่อมั่นไหม?”
“ไม่ใช่หรอก มันหมายความว่า เรามีทางเลือกหลากหลายต่างหากล่ะ —อย่างเรา เราโอเคกับการมีชีวิตสบายๆ สนุกๆของเราไปวันๆ”
ชะงักไปประมาณสามวิแล้วนึกถึงหลักการที่น่าสนใจอันหนึ่ง
“แต่ถ้าให้พูดถึงหลักอะไรสักอย่าง เราค่อนข้างชอบแบบที่คาร์ล มากซ์ นักปรัชญาชาวเยอรมันพูดนะ เขาบอกประมาณว่า มนุษย์นั้นค้นหาความหมายของชีวิตตนผ่านการแสดงออกอย่างมีอิสระ พวกเขาเติมเต็มตัวตนผ่านสิ่งที่เขาสร้าง ดังนั้นสิ่งที่เขาสร้าง(หรือแสดงออก)คือสิ่งที่แสดงออกถึงตัวตนของเขา สรุปคือ คุณค่าของชีวิตจะขึ้นอยู่กับคุณค่าของสิ่งที่เขาสร้างขึ้น¹ มันดูเพื่อสังคมดีมาก” ผมยิ้มเล็กๆ กล่าวปิดท้ายอย่างมีนัยยะ
เธอยิ้มตอบขำๆ “นายนี่ก็นะ ดูไม่จริงใจเลย”
“อย่างน้อยก็ทำให้เธอยิ้มได้นะ” ผมตอบ พร้อมปิดท้ายก่อนที่ชวนเธอสนุกกับวงดนตรีที่กำลังเล่นอยู่ต่อ “ไม่ต้องคิดมากหรอก เธอก็แค่ใช้ชีวิตให้สนุก ค่อยๆร่างความหมายของชีวิตให้ตัวเองไปก็พอแล้ว”
“มนุษย์ถูกสาปให้มีเสรีภาพ เพราะเมื่อเราถูกโยนลงมาบนโลกแล้ว เราต้องรับผิดชอบต่อทุกอย่างที่เราทำ มันขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าคุณจะให้ความหมายกับชีวิตว่าอย่างไร”
Satre, Jean-Paul. 1943. “Being and Nothingness”.
“Man is condemned to be free; because once thrown into the world, he is responsible for everything he does. It is up to you to give a meaning”
[1] “Notes for Class 22: The Meaning of life and Marxism”. Texas A&M Univrsity. Retrieved from people.tamu.edu/~sdaniel/Notes/96class22.html
Reblogged this on Min's Blog and commented:
Short Story on Existential Crisis, The Meaning of Life, and Marxism
LikeLike